News Update

News Update

ยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ยุคใหม่ ด้วยไฟร์วอลล์ที่ผนวกเทคโนโลยีควอนตัม

 

ในยุคที่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัมกำลังก้าวจากการวิจัยสู่การใช้งานจริง โลกไซเบอร์กำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นั่นคือความสามารถของคอมพิวเตอร์ควอนตัมในการถอดรหัสข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสด้วยวิธีการแบบเดิมได้อย่างง่ายดาย เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ ผู้ผลิตไฟร์วอลล์ชั้นนำจึงได้เร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี "Quantum-Safe" เพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญขององค์กร

 

1. แนะนำเทคโนโลยี: Firewall Quantum-Safe คืออะไร?

 

ในทางเทคนิค Firewall Quantum-Safe ไม่ได้ใช้พลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ควอนตัมโดยตรง แต่หมายถึงไฟร์วอลล์ที่ใช้ การเข้ารหัสแบบหลังควอนตัม (Post-Quantum Cryptography - PQC) ซึ่งเป็นชุดอัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์ที่ได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต

 

เทคโนโลยี PQC นี้จะถูกผนวกรวมเข้าไปในระบบปฏิบัติการของไฟร์วอลล์เพื่อทำหน้าที่สำคัญสองประการหลัก:

  •     การเข้ารหัสข้อมูล: ปกป้องข้อมูลที่ถูกส่งผ่านอุโมงค์การสื่อสารที่ปลอดภัย เช่น VPN (Virtual Private Network) ทำให้ข้อมูลยังคงเป็นความลับแม้จะถูกดักจับไปในอนาคตก็ตาม
  •     การแลกเปลี่ยนกุญแจ (Key Exchange): สร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนกุญแจเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถแทรกแซงและขโมยกุญแจได้
 

2. ความสามารถและความแตกต่าง: Firewall ธรรมดา vs. Firewall Quantum-Safe


คุณสมบัติ Firewall แบบดั้งเดิม (NGFW) Firewall ที่มีเทคโนโลยีควอนตัม (Quantum-Safe)
หลักการเข้ารหัส ใช้การเข้ารหัสแบบดั้งเดิม เช่น RSA และ ECC ซึ่งอาจถูกถอดรหัสได้โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ใช้การเข้ารหัสแบบ PQC (เช่น ML-KEM) ที่ออกแบบมาเพื่อต้านทานการโจมตีจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม
ความสามารถหลัก ตรวจจับภัยคุกคามในปัจจุบัน (เช่น มัลแวร์, การบุกรุก), กรองการจราจร, และป้องกัน DDoS ทำทุกอย่างเหมือน NGFW แต่ เพิ่มการป้องกันข้อมูลในระยะยาว จากภัยคุกคามในอนาคต (Harvest-Now, Decrypt-Later)
ความเสี่ยงต่อข้อมูล มีความเสี่ยงสูง หากข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสในปัจจุบันถูกดักจับและเก็บไว้เพื่อรอการถอดรหัสในอนาคต ไม่มีความเสี่ยง จากการโจมตีแบบเก็บข้อมูลก่อนถอดรหัสทีหลัง (Harvest-Now, Decrypt-Later) เนื่องจากอัลกอริทึมที่ใช้มีความซับซ้อนเกินกว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมจะถอดรหัสได้
 

3. ข้อดี และจูงใจให้เปลี่ยนผ่าน

 

การลงทุนในไฟร์วอลล์ที่ผนวกเทคโนโลยีควอนตัมไม่ได้เป็นเพียงแค่การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง แต่เป็นยุทธศาสตร์ที่จำเป็นอย่างยิ่งในปัจจุบัน ด้วยข้อดีหลักดังต่อไปนี้:

  •     การปกป้องข้อมูลในระยะยาว (Future-Proofing): ข้อมูลที่มีความสำคัญสูง เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล, ความลับทางการค้า, หรือทรัพย์สินทางปัญญา มักมีอายุการใช้งานยาวนาน ไฟร์วอลล์ที่รองรับ PQC จะช่วยให้ข้อมูลที่ถูกส่งออกไปในวันนี้ยังคงเป็นความลับต่อไปอีกหลายสิบปีในอนาคต
  •     สร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า: สำหรับธุรกิจที่ต้องจัดการกับข้อมูลลูกค้าที่ละเอียดอ่อน เช่น ธนาคาร, บริษัทประกัน หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ การนำเทคโนโลยีควอนตัมมาใช้เป็นหลักประกันว่าคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลอย่างแท้จริง
  •     สอดคล้องกับกฎระเบียบที่กำลังจะมาถึง: รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศเริ่มกำหนดมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติสำหรับความปลอดภัยในยุคควอนตัมแล้ว การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ก่อนจึงเป็นการเตรียมความพร้อมด้านกฎระเบียบและลดความเสี่ยงด้านการไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในอนาคต
 

Fortinet เป็นหนึ่งในผู้นำที่ได้เริ่มต้นแล้วด้วยการนำเทคโนโลยี Quantum-Safe มาใส่ใน FortiOS 7.6 ซึ่งทำให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถอัปเดตและใช้งานได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นการจูงใจให้องค์กรต่างๆ เริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านได้อย่างราบรื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องการลงทุนมหาศาล

 

สรุปได้ว่า ไฟร์วอลล์ที่มีเทคโนโลยีควอนตัมไม่ใช่เพียงแค่การอัปเกรด แต่เป็นการ ยกเครื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่จะช่วยให้องค์กรของคุณพร้อมเผชิญกับภัยคุกคามในอนาคตได้ตั้งแต่ตอนนี้ ด้วยการปกป้องข้อมูลที่สำคัญที่สุดในแบบที่ไม่มีใครสามารถถอดรหัสได้อีกต่อไป

share :

This website Collects

To give you a better experience, by continuing to use our website, you are agreeing to the use of cookies and personal data as set out in our Privacy Policy | Terms and Conditions

Accept